เหตุการณ์เรือล่มที่ภูเก็ตครั้งนี้ ผู้เสียชีวิตหลายท่านหนีออกจากเรือไม่ทัน เสื้อชูชีพที่สวมใส่อยู่ จึงกลายเป็นอุปสรรคในการเอาตัวรอด แทนที่จะช่วยชีวิต . ต้องเข้าใจก่อนว่า เสื้อชูชีพที่คุ้นเคยกันดีในบ้านเรา ที่สมัยนี้ไปเที่ยวทะเล คนเรือจะบังคับให้ทุกคนต้องสวมใส่นั้น มันเป็นเสื้อชูชีพที่ลอยน้ำตลอดเวลา เป็นแบบที่เราใส่เพื่อลอยตัว ดำผิวน้ำ ดูปะการังชิล ๆ น่ะ . แต่ส่วนตัวผมเอง ไม่ชอบใส่เสื้อชูชีพประเภทนี้มานานมากแล้ว ไม่ใช่เพราะผยองว่า ว่ายน้ำเก่งหรือไรนะครับ แต่ครั้งแรกร่วม 20 ปี ก่อน ผมลงเรือสปีดโบ๊ท นั่งข้ามไปเกาะสุรินทร์ กินเวลานานราว ๆ 45 นาที ขณะอยู่ในเรือ ผมมองไปรอบ ๆ ตัว เห็นทางเข้าออกจากเรือแค่สองทาง ไอ่ช่องว่างระหว่างหลังคากับตัวเรือนั้น เป็นช่องเล็ก คนมุดออกไม่ได้ ผมก็เข้าใจทันทีว่า หากเกิดเหตุฉุกเฉิน เรือล่ม ผมมีทางออกให้เลือกแค่สองทางเท่านั้น และต้องไปให้เร็วที่สุด ก่อนที่น้ำจะเข้าเรือมา แล้วเราจะติดหลังคา จมไปพร้อมกับเรือ . แค่เข้าใจความจริงข้อนี้ ผมก็ถอดชูชีพทันทีครับ เอามาถือไว้แทน มันจะมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อ เราออกพ้นนอกตัวเรือได้แล้วเท่านั้น มันไม่มีประโยชน์เลย หากเรายังออกไปจากเรือไม่ได้…