หลายวันก่อนผมมีโอกาสได้นั่งคุยกับตัวเองจริงจัง ว่าอยากแก้ไขปัญหาอะไรในประเทศนี้มากที่สุด? ได้คำตอบว่า ผมอยากจะสร้าง “โรงเรียน” ที่ช่วยให้เด็ก “ค้นพบตัวเอง” เพราะการที่เด็กไม่รู้ว่า ตัวเองถนัดอะไร? อยากทำอะไรให้โลกใบนี้? โตขึ้นไปจะเป็นผู้ใหญ่แบบไหน? ไม่รู้กระทั่งว่า จะเอนทรานซ์เข้าคณะอะไร? ผมว่ามันคือการศึกษาที่ล้มเหลวนะ ไม่มีประโยชน์อะไรเลย ถ้าเราจะดึงปลาขึ้นมาจากน้ำแล้วยัดเยียดทักษะการปีนต้นไม้ให้มันตั้งแต่เล็ก ๆ แล้วทำให้มันเชื่อว่ามันเกิดมาเพื่อปีนต้นไม้ แล้วปลาตัวนั้นก็ฝึกฝนจนกลายเป็นปลาที่ปีนต้นไม้เก่งที่สุดในโลก แต่มันไม่เคยได้รู้เลยว่า มันมีความสุขกับการอยู่ในน้ำหรืออยู่บนต้นไม้กว่ากัน ผลลัพธ์แรกของการศึกษา ผมอยากให้มันเป็นการทำให้แต่ละคนได้ค้นพบว่า ตนเองถนัดอะไร ที่ทำได้ดีและมีความสุขที่จะทำมัน แล้วค่อยเสริมสร้างทักษะในการใช้ชีวิตทางด้านนั้นให้กับเค้า มันถึงจะเป็นการศึกษาที่ “ใช้การได้” สำหรับผม อันที่จริงผมก็พยายามแก้ต่างให้การศึกษาระบบเก่ามาตลอดนะ ว่าแม้เราจะไม่ได้ใช้ sine, cos, tan ในการซื้อส้มสักโล แต่มันก็ช่วยพัฒนารอยหยักในสมองเรา ช่วยพัฒนา logic และระบบการคิดของเราได้ ผมก็คิดบวกเป็นนะ เก่งด้วย จนกลายเป็นพวกโลกสวยสายลมแสงแดดอยู่ช่วงนึงเลย แต่หลังจบจากมหาลัยมา ผมก็พบว่าเรายังมีวิธีพัฒนารอยหยักที่ว่านั้นในอีกหลายรูปแบบเหลือเกิน บวกกับได้เห็นว่า ไอ่คนที่ได้รับการฝึกสมองมาแบบนั้นเหมือน ๆ กัน แตกแรงเป็น ดิฟ อินติเกรทเป็นหมด แต่ดันคิดไม่เป็น มีตรรกะที่ผิดเพี๊ยนบรรลัย ก็มีถมเถไปในสังคม จนผมมาดู TED Talks เรื่อง…