แต่ก่อนผมก็ไม่ได้เป็นภูมิแพ้นะครับ หายใจได้ปกติดี
สมัยเด็กบ้านอยู่แถวสนามบินสุวรรณภูมิในปัจจุบัน ผมโตมากับการปีนป่ายในสวนและกระโดดน้ำคลอง ไม่มีปัญหาเรื่องการหายใจ แต่พอเรียนจบ เริ่มเข้ามาทำงานใจกลางเมืองย่านเพลินจิตได้สักพัก ผมก็เริ่มมีอาการภูมิแพ้ มีเสมหะหลังโพรงจมูกตลอดเวลา จนคิดว่ามันไม่ปกติละ เลยไปหาหมอที่โรงพยาบาลหูตาคอจมูก หมอก็ให้ยามากิน ผมพยายามอธิบายว่า แต่ก่อนผมไม่เป็นแบบนี้ นี่มันเรื่องใหญ่มากสำหรับผม หมอก็ทำหน้าแบบ มันเป็นเรื่องปกติธรรมดามากแล้วตอบ “ก็น้องเป็นภูมิแพ้”
ผมก็เลยเป็นภูมิแพ้ทางการแพทย์ ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
.
ตอนไปเรียนที่อเมริกา อยู่มาจนเข้าปีที่ ๓ ผมก็เริ่มมีอาการแพ้อากาศ เป็นหนักมากในช่วง Spring (ฤดูใบไม้ผลิ) มันรู้สึกว่าจมูกข้างในบวมเป่ง คัดจมูก หายใจไม่ถนัด มีคันยิบ ๆ ตรงปลายจมูกด้วย (ผมเดาเองว่า แพ้พวกเกสรดอกไม้ที่ลอยปนมาในอากาศ) ช่วงที่เป็นหนัก ๆ คือจมูกตันไปเลย ลมผ่านไม่ได้ต้องหายใจทางปากแทน
ผมจึงต้องไปซื้อยาพ่นมาติดตัวไว้เลย ยาพวกนี้ออกฤทธิ์ไปลดขนาดหลอดเลือดอย่างเฉียบพลัน ยุบตัวลงจนหายใจได้ทันที รู้นะว่ายามันแรงไม่ควรใช้บ่อย แต่บางทีมันเป็นกลางดึกจะนอนแล้วแต่หายใจไม่ออกต้องหายใจทางปากแทน มันก็นอนไม่หลับ ทรมานนะ พอพ่นปุ๊ป ไม่ถึง ๒ นาที โล่งเลย มันเหมือนได้ยกภูเขาไฟฟูจิออกไปจากรูจมูก ผมเข้าใจเลยว่าคนที่ขาดอากาศหายใจนั้นทรมานขนาดไหน เป็นอีกครั้งที่เข้าใจอย่างสุดซึ้งในเรื่องสุขภาพว่า “ความปกติธรรมดา” ของร่างกายนี่แหละของขวัญแห่งชีวิตเลย
.
ใช้ชีวิตมาเรื่อย ก็ได้รู้จักพี่แซม พี่ชายชาวเกาหลีคนนึงซึ่งพูดไทยได้คล่องกว่าคนไทยบางคน เค้าเคยผ่าตัดแก้ “โพรงจมูกคด” ซึ่งหลังจากปรับแก้โพรงจมูกแล้ว ก็หายใจโล่งสบาย ไม่ติดขัดอีกเลย ผมฟังแล้วก็รู้สึกชีวิตมีความหวัง พอมีโอกาสได้ไปทำงานที่เกาหลีด้วยกัน แกเลยพาผมไปตรวจที่โรงพยาบาลในกรุงโซล ใช้คลื่น Ultrasonic ตรวจโพรงไซนัสอย่างละเอียด ได้ความว่า ผมมีอาการโพรงจมูกคดเช่นกัน แม้จะไม่มากแต่ก็สามารถแก้ไขให้เป็นปกติได้ด้วยการผ่าตัด
ตอนนั้นมันก็มีแสงแห่งความหวังนะ ใครที่เคยมีปัญหาสุขภาพ ปวดเข่า ปวดหลัง เป็นอัมพฤกษ์ ไรพวกนี้คงเข้าใจดีว่า ถ้ามีกระบวนการใดจะทำให้ร่างกายกลับมาเป็นปกติได้ขอให้บอกเหอะ กรูทำหมด ประมาณนั้นเลยครับ แต่ตอนนั้นถ้าจะให้ตัดสินใจทำที่เกาหลีเลย ผมก็กังวลเรื่องภาษาแหละ การคุยกะหมอพยาบาลผ่านล่ามนั้น คงอึดอัดและกังวลพอควร เลยคิดว่าจะกลับมาผ่าตัดในไทยดีกว่า ขอหาข้อมูลก่อน
.
กลับมาไทยก็เลยนึกถึงคุณหมอหูตาคอจมูกรุ่นพี่ ที่นิยมชมชอบการถ่ายรูปเหมือนกัน ไปปรึกษาแกว่า ผมตัดสินใจผ่าตัดโพรงจมูกคด พอจะทำที่ไหนได้ในไทยบ้าง แกก็บอกว่าจู่ ๆ จะไปขอให้หมอผ่าตัดให้เลยคงไม่ได้ มันเรื่องใหญ่นะ การจะเอามีดกรีดลงไปบนเนื้อคนเนี่ย ลองไปให้หมอตรวจดูก่อน แล้วค่อยรักษาไปตามอาการ หากจำเป็นหมอก็จะแนะนำให้ผ่าตัดเอง แกก็แนะนำให้มาที่รพ.จุฬา ผมจึงได้เข้ามาตรวจที่ภาควิชา โสต นาสิก โรงพยาบาลจุฬา เมื่อปีที่แล้ววันที่ ๑๘ มิ.ย. ๒๕๕๙
คุณหมอส่องกล้องตรวจอย่างละเอียดแล้วก็บอกกับผมว่า อาการโพรงจมูกคดของผมมันไม่ได้เลวร้ายขนาดจะต้องผ่าตัดนะ แต่เยื่อบุโพรงจมูกของผมนั้น มีอาการบวมกว่าคนปกติทั่วไป อากาศมันก็เลยผ่านได้น้อย เลยรู้สึกคัดจมูก หายใจไม่โล่งเท่าที่ควร และทำให้เสียงบี้ ติดจมูก
คุณหมอแนะนำให้รักษาโดยใช้ยา ผสมกับน้ำเกลือ ล้างจมูกทุกวัน แล้วดูอาการก่อน ว่าจะยุบลงแค่ไหน ผมก็ทำมาตลอด ไปตรวจอาการทุก ๆ ๓ เดือน โดยที่คุณหมอจะส่องกล้องอย่างละเอียดทุก ๆ ๖ เดือน จนเวลาผ่านไปประมาณหนึ่งปี คุณหมอก็บอกว่ามันก็ดีขึ้นเยอะนะ เยื่อบุโพรงจมูกมันยุบลงไปมากกว่าตอนแรกละ เสียงก็ฟังดูบี้น้อยลง ก็อยู่ในระดับที่น่าจะโอเคแล้วแหละ ใช้ชีวิตได้ แต่การรักษาด้วยยามันคงมาได้แค่นี้ คงไม่ยุบไปกว่านี้แล้ว
.
ตอนนั้นผมได้ยินก็ทำใจเล็ก ๆ ว่า ก็คงมาได้แค่นี้ แต่พอคุณหมอพูดต่อว่า ถ้ายังไม่พอใจมันมีอีกวิธีคือใช้คลื่นวิทยุลดขนาดเยื่อบุโพรงจมูก แต่ก็ถือเป็นการผ่าตัดเล็ก ลองไปคิดดูก่อนก็ได้จะทำค่อยมาบอก
ประตูแห่งความหวังที่เพิ่งปิดลงไปยังไม่สนิทดี กลับเปิดออกอีกครั้ง ผมถามค่าใช้จ่าย คุณหมอบอกประมาณหมื่นนึง ผมตอบไม่คิดเลยว่า ทำครับ ช่วยนัดวันทำให้ผมเลยครับ เงินหมื่นนึงถ้ามันแลกกับ “โอกาส” มีจมูกใหม่ หายใจคล่องกว่าเดิมได้นี่ ผมว่า ผมจะทำทุกทาง เพื่อหาเงินก้อนนี้ให้ได้แน่ ๆ
.
การรักษาด้วยวิธีผ่าตัดลดขนาดเยื่อบุโพรงจมูก (Inferior Turbinate Reduction) นี้นั้น ตอนแรกที่คุณหมอบอกว่า ใช้คลื่นวิทยุ ผมก็นึกภาพว่า ใช้อุปกรณ์อะไรสักอย่าง สอดเข้าไปในรูจมูก แผ่คลื่นวิทยุใส่ผนังรูจมูก คล้าย ๆ เปิดเพลงบอสซ่าให้มันฟัง แล้วมันคงจะค่อย ๆ ผ่อนคลายและยุบตัวลง แต่พอคุณหมออธิบายเพิ่มว่า ควรจะพักฟื้นต่ออีกวันนะ เพราะมันอาจจะยังมีเลือดหยด หรือสะเก็ดเลือดในโพรงจมูกอยู่ อาจจะทำงานไม่ถนัด ผมก็ยังงง ๆ ว่าทำไมใช้คลื่นวิทยุถึงมีเลือดหว่า แต่ก็ตัดสินใจยังไม่หาข้อมูลอะไรเพิ่มเติมทั้งนั้น ไม่อยากจะ Visualize อะไรตอนหลับตาในห้องผ่าตัด
ก็เลยได้มีประสบการณ์เข้าห้องผ่าตัด แบบที่ตัวเองต้องขึ้นเตียงผ่าตัด เป็นครั้งแรกในชีวิตผม พยาบาลให้เปลี่ยนชุด ถอดหมดรวมถึงชั้นในด้วย มันอดสงสัยไม่ได้ว่า ผ่าจมูกทำไมต้องถอดกางเกงในด้วยฟระ แต่ก็เดาว่า เสื้อผ้าเรามีเชื้อโรคติดมาจากข้างนอกเยอะ ปลอดเชื้อที่สุดน่ะดีแล้ว
เมื่อจัดท่านอนเข้าที่เข้าทางแล้ว คุณหมอก็ใช้ยาชาแบบสอดในรูจมูกก่อน ก็สร้างความชาได้ในระดับนึง จึงค่อยฉีดยาชา ทีแรกคิดว่าเข็มแทงในโพรงจมูกที่มีแต่เส้นเลือดเส้นประสาทนี่ ยังไงก็คงเจ็บ แต่สบายกว่าที่คิดมาก จากนั้นรอให้ยาชาออกฤทธิ์สักพัก คุณหมอบอกจะมีเลือดและยาชา ไหลลงคอไม่ต้องตกใจ กลืนได้
มาพีคตรงตอนจะเริ่มทำ คุณหมอบอกว่ามันจะมีกลิ่นไหม้นิด ๆ นะ กลิ่นจะเหมือนเนื้อย่าง ๕ ๕ ๕ ตอนอยู่บนเตียงมันไม่ค่อยขำเท่าไรนะ ภาพมาเต็มเลยว่าอิคลื่นนี่มันจะถึงขั้นทำให้เนื้อสุกเลยเหรอ แกะมากินได้มั้ย ๕ ๕ ๕
คุณหมอย้ำว่า มันจะไม่เจ็บนะ ถ้าเจ็บให้บอก แต่อาจจะร้อนหน่อยนะ แล้วก็เริ่มรู้สึกว่ามีอุปกรณ์การแพทย์ (มั่นใจว่าไม่ใช่อุปกรณ์ก่อสร้าง) มาเขี่ย ๆ ในจมูกเรา คุณหมอคอยบอกเป็นระยะว่ากำลังทำอะไร เดี๋ยวหมอจะจี้ ๕ จุดนะคะ จุดละประมาณ ๑๐ วินาทีนะ สลับกับการสอนนักศึกษาแพทย์ไปด้วยว่า อย่าวางของบนตัวคนไข้สิใจเขาใจเรา นึกดูถ้าเราเป็นคนไข้แล้วหมอเอากรรไกรมาวางบนอกเราจะรู้สึกยังไง ผมฟังแล้วรู้สึกดีใจที่ได้ทำประโยชน์ให้แก่มวลมนุษยแพทย์ นักศึกษาท่านนั้นอาจจะได้เรียนรู้บางอย่างในสายอาชีพเค้า จากการที่ร่างกายผมกลายเป็นโต๊ะเครื่องมือแพทย์ไปชั่วคราวราว ๆ ๕ วินาที
แต่ก็มีบางจังหวะที่รู้สึกเริ่มเจ็บ ผมเป็นคนเชื่อฟังหมอ เลยรีบส่งเสียงร้องบอกหมอ อ๊อย ๆ เอ็บ ๆ หมอก็ถามอย่างเป็นห่วงว่า ทนไหวมั้ย? แค่นั้นผมก็สงบปากอย่างเรียบง่าย เพราะมันก็ไม่ได้เจ็บอะไรขนาดนั้น แค่ทำตามที่หมอสั่งว่าถ้าเจ็บให้บอก จริง ๆ แล้วผ่าฟันคุดยังเจ็บกว่าเลย
แล้วทุกอย่างก็จบลงภายในเวลาอันสั้นอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งหมดราว ๆ ๔๐ นาที แต่ผ่าจริง ๑๐-๑๕ นาทีเองมั้ง หมอให้เอามือขึ้นมาบีบจมูกเป็นการห้ามเลือด อีกประมาณ ๑๐ นาที อันนี้เรานักดำน้ำถนัดอยู่แล้ว ก็บีบจมูกเหมือนตอนเคลียร์หู ทำ Equalize ปรับแรงดันในหูนี่แหละ จากนั้นก็เปลี่ยนเสื้อผ้า พยาบาลมาแปะสำลีให้ที่ปลายจมูกเผื่อเลือดหยด แล้วใส่ Mask นั่ง MRT กลับบ้านด้วยความสบายใจ และมาถึงคอนโดก็ไม่มีเลือดหยดแต่อย่างใด แปลว่าแผลด้านในเลือดหยุดใหลแน่นอน เย้
พอการผ่าตัดผ่านไปแล้ว ก็กลับมาเปิด Youtube ดูสักหน่อย ว่า อิ Inferior Turbinate Reduction เนี่ย เค้าทำกันยังไงเหรอ ดูหลายคลิปแล้ว ผมรู้สึกว่าคิดถูกจริง ๆ ที่ไม่ดูวีดีโอพวกนี้ไปก่อน ไปแบบหัวว่าง ๆ ไม่ต้องรู้อะไรนี่แหละ ดีแล้ว เพราะวิธีดั้งเดิมก็มีแบบ วางยาสลบ เอามีดกรีด Turbinate เพื่อผ่าลดขนาดเลย อันนี้ดูแล้วเสียวแทนขอไม่แปะคลิปให้ดูละกัน แต่ส่วนวิธีที่ผมทำ รู้สึกจะเป็นแบบวีดีโอนี้ คือไม่ต้องใช้มีดกรีด แต่ใช้วิธีเจาะเข้าไปใน Turbinate แล้วปล่อยคลื่นวิทยุจากด้านในทำให้ยุบตัว อันนี้ทำเป็น 3D ดีงาม เข้าใจง่ายมาก
เล่ามายืดยาว ก็หวังว่า การแบ่งปันประสบการณ์ครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อคนที่มีปัญหาการหายใจบ้างนะครับ ลองไปตรวจละเอียด ๆ กันดูนะครับ เทคโนโลยีการแพทย์พัฒนาไปอย่างยอดเยี่ยม คนเราก็มีทางเลือกมากขึ้น ที่จะใช้ชีวิตได้อย่างเยี่ยมยอดในทุก ๆ วันครับ
.
สุดท้ายขอแถม บทความดี ๆ เกี่ยวกับภูมิแพ้จากราชวิทยาลัยโสต ศอ นาสิก ลองศึกษาเพิ่มเติมกันดูนะครับ ในเว็บมีอีกหลายเรื่องเลยนะครับ ที่เขียนดี เข้าใจง่าย เป็นประตูแรกสู่ความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ในชีวิตเราครับ
http://www.rcot.org/2016/People/Detail/227
ขอทราบชื่อคุณหมอได้ไหม?
จริง ๆ รีวิวนี้ระบุชื่อคุณหมอไว้แต่แรกครับ แต่หลังจากมันมีความ Mass จึงมีคนไปขอพบคุณหมอเป็นการเจาะจงเยอะมาก จนโรงพยาบาลจัดคิวให้ไม่ได้ อย่างที่รู้กันว่า รพ.รัฐ ปกติก็คนแน่นมากอยู่แล้วครับ
พอไป Follow up คุณหมอจึงขอไว้ ไม่ให้บอกชื่อแพทย์ฮะ
คุณหมอฝากแจ้งว่า แพทย์ที่รพ.จุฬาทุกท่านมาตรฐานเดียวกัน รักษาตามอาการเหมือนกันใครเป็นคนรักษาก็ได้ตามนี้ จะเห็นว่าช่วงแรกผมก็ยังไม่ได้ผ่าตัดในทันที ทุกเคสจะต้องมาตรวจอาการและประเมินวิธีรักษาในเบื้องต้นก่อนครับ อาจจะไม่ได้ผ่าตัดแบบนี้ ต่อให้ตั้งใจมาขอผ่าเองก็ตาม
คำแนะนำของผมคือ ลองไปที่ รพ.จุฬา แผนกโสต นาสิก เลยก็ได้นะครับ เจอคุณหมอท่านใดก็ตาม ลองเล่าให้คุณหมอฟังว่าอ่านรีวิวมา วิธีรักษาเป็นประมาณนี้ พอผ่าแล้วได้ผลดี เลยอยากมาปรึกษาว่า อาการของเรานี้ เป็นไปได้ไหมที่จะใช้วิธีเดียวกัน อยากหายบ้าง คุณหมอท่านก็คงเข้าใจฮะ ^^
อัปเดตอาการ
ตอนนี้ก็ผ่านมาสัปดาห์กว่า ๆ แล้วครับ หายใจโล่งมากกกกก (อยากเขียน ก.ไก่ เยอะกว่านี้ แต่เป็นคนชอบความพอดี) มีความรู้สึกเหมือนได้พ่นยาใส่จมูกเราอยู่ตลอดเวลา มันโล่งแบบนั้นเลย เวลาสูดหายใจเข้า มันไม่รู้สึกว่าติด ๆ หนืด ๆ หน่วง ๆ อะไรอีกแล้ว ถ้าเป็นนักดำน้ำ คงประมาณว่าใช้ Regulator รุ่นเล็ก ๆ ที่จ่ายอากาศไม่ดีนัก จากถังที่เหลืออากาศแค่ ๕ บาร์ มาเป็นสิบปี ตอนนี้เปลี่ยนเป็นถังใหม่อากาศเต็มเปี่ยม พร้อม Regulator ไฮโซจ่ายอากาศลื่นปรื้ดไหลเข้าปอดทะลุไปลำไส้ใหญ่ในเฮือกเดียว ประมาณนั้นเลย (ท่านที่อ่านแล้วไม่เข้าใจ แนะนำให้ไปเรียนดำน้ำแบบ Scuba แล้วกลับมาอ่านใหม่)
หมอให้พักฟื้น ๑ วันหลังผ่าตัด และให้งดออกกำลังกายหนัก ๗ วัน ก็เลยได้แต่แอโรบิกเบา ๆ อยู่คอนโด สลับกับ Weight Training ไป จริง ๆ รู้สึกแผลหายตั้งแต่วันที่ ๔-๕ แล้วนะ อยากไปวิ่งมาก (แต่ก่อนก็ไม่คิดว่าจะมาชอบวิ่งนะ มันไม่เห็นสนุกเลย แต่พอ “วิ่งเป็น” แล้วพบว่ามันมีรายละเอียดที่ท้ายทายมาก ๆ อยู่ในกีฬานี้เต็มไปหมดเลย) แต่ก็ต้องข่มใจไว้ และใช้ชีวิตตาม Integrity ไม่ใช่ตามอารมณ์ความรู้สึก สุดท้ายก็ได้กลับมาวิ่งอย่างสบายใจในวันที่ ๗ พอดิบพอดี
และผมก็ได้มีโอกาสลองเป็นหวัดครั้งแรก หลังจากผ่ามาสัปดาห์นิด ๆ มันมีน้ำมูกตามปกติ มีความรู้สึกว่า จมูกข้างในบวม โต ยังรู้สึกหน่วง ๆ หนัก ๆ ในรูจมูกเหมือนเดิมแหละครับ เพียงแต่อาการแบบนี้ ถ้าเป็นเมื่อก่อน จมูกต้องตัน ต้องหายใจลำบากละ แต่ตอนนี้หายใจโล่งครับ ไม่รู้สึกติดขัดเหมือนแต่ก่อน ตอนนี้สูด, สั่งน้ำมูกได้มันมาก เหมือนกับช่องอากาศมันเปิดโล่งขึ้นมาก หลงรักรูจมูกตัวเองขึ้นเยอะเลยครับ แต่ก่อนได้แต่ตัดพ้อโชคชะตา แล้วก็ทนรับสภาพไป
.
[ ๔ กรกฎาคม ๒๕๖๑ ]
ผ่านมาราว ๆ ปีนึงแล้วนะครับ ยังคงหายใจคล่อง โล่ง ลื่น ดีอยู่นะครับ ใช้ชีวิตปกติ ออกกำลังกายปกติดีครับ
ช่วงเป็นหวัด ก็มีคัดจมูกบ้างครับ แต่ไม่มีจมูกตัน ขนาดดับไปเลย จนต้องไปหายใจทางปากแทน แบบแต่ก่อน ผมคิดว่า มันก็ยังมีอาการแพ้บ้าง เพราะอาการภูมิแพ้ไม่ได้หายไปไหน แต่ด้วยขนาดของเยื่อบุที่เล็กลงไปแล้ว ต่อให้บวมขึ้นมาจากการแพ้ ก็บวมไม่เท่าก่อนผ่าตัดครับ
ยังคง Follow up กับคุณหมออยู่ตลอดครับ คุณหมอคอยนัดไปเช็คว่า อาการบวมกลับมาอีกไหม แต่ทุกครั้งที่เช็ค ผลก็ออกมา ok คุณหมอจึงยืดระยะเวลานัดครั้งถัดไป ห่างออกไปเรื่อย ๆ ครับ แรก ๆ ก็เจอทุก ๓ เดือน แล้วขยับเป็น ๔ เดือน ตอนนี้ขยับเป็น ๖ เดือนละครับ ไปตรวจอีกทีก็ มกรา ๖๒ นู่นเลยครับ
.
[ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๓ ]
ผมเว้นช่วงไม่ได้ไป Follow up กับคุณหมอนานเกือบปีเหมือนกัน และเมื่อช่วง COVID-19 ต้นปี ๒๕๖๓ ที่ผ่านมา ช่วงที่สวนสาธารณะปิด ผมก็ไม่ได้ไปวิ่ง เริ่มสังเกตว่า อาการคัดจมูกกลับมาครับ ถึงจะไม่แย่เท่าสมัยก่อนผ่าตัด แต่รู้สึกได้ว่า หลังผ่าตัดมา ไม่ได้คัดจมูกขนาดนี้เลย
ก็เลยไป follow up อีกครั้ง คุณหมอให้ยาพ่นมาใช้เพื่อบรรเทาอาการบวมครับ
ทำความเข้าใจกันนิดนึง การลดขนาดเยื่อบุโพรงจมูกนั้น ทำให้เรามีพื้นที่ช่องอากาศมากขึ้น แต่ไม่ได้ทำให้อาการภูมิแพ้ลดลงนะครับ
เมื่อมีตัวกระตุ้น เช่น ไรฝุ่น เกสรดอกไม้ หรืออะไรก็ตามที่ร่างกายเราแพ้ เยื่อบุโพรงจมูกมันก็บวมเหมือนเดิมนั่นแหละ แต่ด้วยความที่ความหนาของมัน ถูกทำให้บางลงด้วยการผ่าตัดแล้ว การบวมนั้นก็เลยไม่สร้างปัญหามากเหมือนแต่ก่อน
คุณหมอก็ย้ำเตือนว่าต้องดูแลสภาพแวดล้อมให้ดีด้วย เช่น ไรฝุ่นบนฟูกนอน หากเราไม่ดูดมันออกมา ทุกครั้งที่เราล้มตัวลงนอนหรือพลิกตัวไปมา เศษซากเหล่านี้ก็จะฟุ้งขึ้นมาให้เราสูดมันเข้าร่างกายไปทางลมหายใจ กระตุ้นการแพ้ได้ด้วยเหมือนกัน
อาการภูมิแพ้ ยากที่จะหายขาดครับ ผมถามรุ่นพี่ที่เป็นหมอ แกบอกมีคนไข้หลายคน พอรักษาแล้วได้ผลดีจนปลอดอาการ ก็จะเข้าใจว่าหาย แต่ถ้าใช้ร่างกายอย่างประมาทอาการก็อาจกลับมาได้ ดังนั้น เราต้องทำตัวเองให้แข็งแรงจากภายใน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ส่วนตัวผมไม่ชอบวิ่งเลย มันไม่สนุกเหมือนเล่นกีฬา แต่พบว่า การออกกำลังแบบคาร์ดิโอ ให้หัวใจเต้นแรงเป็นประจำนั้น ช่วยลดอาการฟึดฟัด ลดเสมหะ น้ำมูก ได้ดีกว่ายกเวท ก็เลยต้องพาตัวเองไปวิ่งเป็นประจำครับ
เป็นอีกครั้งที่ได้ย้ำเตือนว่า อย่าหลงลืมที่จะจัดเวลาให้กับการดูแลสุขภาพ อย่าอ้างไม่มีเวลาเพราะสุขภาพที่ดีนั้นเป็นพื้นฐานสำคัญให้เรามีแรงไปหาเงินครับ
ปัจจุบัน ผ่านไปสามปีเต็มแล้ว ก็ยังคิดว่า ผลการผ่าตัดเป็นไปได้อย่างดี ตัดสินใจถูกที่ทำครับ ถึงมีอาการแพ้อากาศ จมูกบวม แต่ก็ไม่คัดจมูกเท่าแต่ก่อน และไม่มีอาการจมูกตันจนต้องไปหายใจทางปากแทนอีกเลย
.
[ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ ]
ห่างหายจากการมา Follow up กับคุณหมอหลายปีเลย เพราะใช้ชีวิตได้ดีไม่มีปัญหา หายใจโล่งสบายมาโดยตลอดครับ จนเมื่อปลายเดือนมกรา ๒๕๖๘ นี่เอง ผมมีอาการจมูกตันจนต้องหายใจทางปากเป็นครั้งแรกเลยหลังผ่าตัดมา นับเวลาแล้วก็เกือบ ๆ ๘ ปี ผมจึงรีบโทรมาทำนัดคุณหมออีกครั้ง
คุณหมอตรวจแล้วก็บอกว่าผนังจมูกยังดูปกติดี ไม่ได้บวมมาก มีเพียงน้ำมูกและอาการแพ้เท่านั้น สรุปว่าผลจากการผ่าตัดลดขนาดเยื่อบุโพรงจมูกยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่ดีนะครับ
ที่มีอาการจมูกตันไปนั้น น่าจะเป็นอาการแพ้หนักมาก ๆ จนเยื่อบุโพรงจมูกบวมขึ้นมาผิดปกติ ซึ่งก็เป็นช่วงที่ค่าฝุ่น PM2.5 ในกทม.ขึ้นไปรุนแรง ภายนอกเกิน ๑๐๐ มก./ลบ.ม. ในคอนโดก่อนเปิดเครื่องฟอกอากาศยัง ๖๐ มก./ลบ.ม. ซึ่งผมว่ามันก็ไม่ได้แย่แค่ปริมาณฝุ่นหรอกครับ มลพิษอีกหลายประเภทที่คงปะปนมาในอากาศด้วยแหละที่ไปช่วยกระตุ้นอาการแพ้ มันคงสัมผัสสะสมมาต่อเนื่องหลายวันมาพีคเอาวันนั้น
การมา Follow up กับคุณหมอในวันนี้ก็ทำให้รู้สึกดีว่า ผลจากการผ่าตัดยังอยู่ดีนะ ที่จมูกตันวันนั้นน่าจะเป็นอาการแพ้แบบ Extreme จริง ๆ จนมันบวมขึ้นมามาก ไม่อยากนึกภาพเลยว่าถ้าไม่ได้ผ่าตัดลดขนาดไว้จมูกจะตันขนาดไหน รอบนี้ก็ได้ยาพ่น Avamys มาพ่นวันละครั้ง (กดซ้าย 1 ขวา 1, แล้วกดซ้ำ ซ้าย 1 ขวา 1)
คุณหมอนัดมาดูอาการอีกทีหลังสงกรานต์ แต่บอกว่าถ้าไม่มีปัญหาก็ไม่ต้องมา ซึ่งผมคิดว่าคงมาเอายาพ่นแหละ รู้สึกพ่นแล้วอาการแพ้น้อยลง เวลาแพ้มันมีเสมหะหลังโพรงจมูกเยอะ ต้องคอยกลืนลงคอจนเหนื่อย มันหนืดกลืนไม่ลงก็ติดคอยกระแอมตลอด มันก็ยิ่งไปกระตุ้นให้เสมหะออกมาอีก จนผมต้องไปฝึกเจริญสติ อย่าไปยุ่งกับมันปล่อยมันไว้แบบนั้นแหละ พอไม่ไปพยายามเอามันออก เดี๋ยวมันสะสมจนกลืนลงคอได้ มันจะไม่ผลิตเพิ่มครับ
ก่อนกลับคุณหมอบอกว่าตามหลักการแล้วการผ่าตัดลักษณะนี้จะอยู่ได้ 2-3 ปี แต่คนไข้ที่ทำมารวมผมด้วย ก็อยู่ได้เกินทั้งนั้น ยิ่งถ้าดูแลตัวเองดีก็จะยิ่งหายห่วงครับ ใครที่เจอปัญหาแบบผม นอกจากออกกำลังกายสม่ำเสมอแล้ว ก็ลองปรับอาหารการกินดูบ้างนะครับ ผมเชื่อว่าอาหารในยุคปัจจุบันมีส่วนก่อภูมิแพ้เหมือนกัน อย่างผมลองตัดคาร์บ + ทำ IF ดูแล้วรู้สึกแพ้น้อยลง แต่ร่างกายคนเราก็ไม่เหมือนกันลองศึกษาวิธีกินแบบต่าง ๆ ดูว่าเหมาะกับเราไหมนะครับ
อยากทราบชื่อหมอค่ะ
ตอนนี้ทรมานใช้ยานานเริ่มไม่ได้ผล
อาการคล้ายกัน แต่ไปตรวจมาหลายรพ ทั้งอาจารย์ที่ จุฬา ศิริราช ประมาณ 5 ท่านแล้ว ให้ล้างจมูก พ่นยา กินยา ก็ยังไม่หาย ทำมารักษามา2ปี
ขอทราบชื่อคุณหมอเพื่อไปรักษาหน่อยสิคะ
อยากรักษาบ้างครับ ขอทราบชื่อคุณหมอด้วยครับ แจ้งทางไลน์ก็ดีครับ Line id: tahzaa ขอบคุณครับ
อยากทราบชื่อคุณหมอครับ ตอนนี้ทรมานมาก email:ก็ได้ครับ [email protected] ขอบคุณมากครับ
อยากทราบชื่อคุณหมอคะ เป็นมานานรักษาที่ไหนก็ยังไม่หายคะ wanida.nukboon@ iCloud.com
ดีครับ ผมอยากสอบถามลักษณะของอาการที่เป็นก่อนผ่าตัดอ่ะครับ
คือผมหายใจไม่สะดวกด้านซ้ายเป็นหลัก เเละมีอาการอื่นๆร่วมด้วย เลยอยากสอบถามเพิ่มเติม ไม่ทราบจะขอติดต่อสอบถามทางไลน์ได้มั้ยครับ
ไลน์ผม sarawut7 นะครับ
ถ้าไม่เป็นการรบกวน อยากสอบถามเพิ่มเติมทางไลน์อ่ะครับ ขอบคุณมากครับ
ขอทราบชื่อคุณหมอค่ะ ตันมาเป็นยี่สิบกว่าปีแล้วค่ะ ไปอยู่ออสเตรเลีย12ปี พ่นน้ำเกลือทุกวัน กลับมาไทยก็ยังพ่นอยู่ [email protected]
รบกวนขอสอบถามชื่อคุณหมอหน่อยครับพี่ [email protected] ขอบคุณมากครับ
อยากทราบชื่อแพทย์ค่ะ
เมื่อกพ.ผมผ่าไปแล้ว1รอบ จมูกคดและเยื่อบุจมูกอักเสบ หายใจไม่ออก ผ่าตัด มาได้เกือบ4 เดือน ตอนนี้คดเหมือนเดิม เยื่อบุบวมขึ้นเหมือนเดิม รอบสองนี้ไม่รู้จะได้ผ่าไหม รอหมอตรวจอีกรอบ
อันนี้เป็นผู้ป่วยในหรือนอกเวลาครับ หมื่นนึงถูกมากเลย ผมไปถามมาแต่ละที่ 6-7 หมื่น มีบางที่ 2แสน…. ไม่แน่ใจแบบเดียวกันไหมแต่ิดว่าที่ผมไปดูมาคือ Deviated Septum Surgery (Septoplasty) อยากทำมานานแล้วครับ นัดหมอที่ศิริราชได้รั้งเดียวเองแต่หมอก็บอกให้ไปลองใช้ยา ล้างน้ำเกลือ สูดไอน้ำก่อนครับ ทำไปก็ช่วยอยู่เดี๋ยวเดียวแล้วก็เป็นใหม่ เป็นมานานมากแล้วอยากจะผ่าให้หายไปเลยเพราะมานั่งใช้ยามันก็เสียเงิน เสียเวลามากในระยะยาว ดำน้ำเหมือนกันครับเคลียหน้ากากได้แค่ด้านเดียวตลอด 5555
ผมผ่ามาได้ 10 วันตอนนี้ยังไม่ดีเท่าไรครับ ดีกว่าเดิมครับ แต่ว่าตอนนี้ส่องดูยังมีหนองครับ ไม่ทราบว่าปกติไหมครับ รบกวน add line มาหน่อยนะครับ อยากทราบอาการหลังผ่าตัดครับ boomdiesel1998
อยากแนะนำเจ้าของบทความว่า เดี๋ยวนี้มีการฉีดวัคซีนภูมิแพ้ด้วยนะครับ อันนี้จะช่วยให้ร่างกายเรามี anti-body ต่อสารก่อภูมิแพ้ ผมรักษาอยํ่ที่ศิริราชครับ
Arkadaslar uygulama cidden �alisiyor sok ge�iriyorum su an??
I had a broken day but now I’m happy
kimleri g�r�yorum kimleri
ooo who’s who i’m in awe ??
finally technology has advanced and they did it too ??
Bu �ikan veriler ger�ekse ben sokk
Helal olsun tebriklerrr ??????
ulan 2 yildir takip ediyosun yaz bari be vicdansizz ????
twitter profilime bakanlari g�rd�m sonunda
twitterda profilime bakanlari g�recegimi hi� sanmiyordum 🙂
Admin kim bilmiyorum ama tebrikler 3 saat sonra geldi benim takip�im
Bu �ikan veriler ger�ekse ben sokk
she was crying 🙂
A Really Excellent Application Good luck
ulan herkes tokat�i olmus ama bu adam g�nderdi helal valla??
stalkerler gelin oturup bi konusalim neden ben ??
Today we learned about our secret admirers…
I went crazy when I saw my stalkers