ไอ้การบิ้วคนให้ขยัน ให้ทนลำบากเพื่อรวยนั้น
ใช้ได้ดีกับคนเหลาะแหละ ชิล ขี้เกียจ
งอมืองอเท้า แต่อยากได้เงินเยอะ ๆ
ใช่ครับ พวกนี้สมควรถูกบิ้ว
ชีวิตเขาจะได้มีความสมดุลขึ้นมาหน่อย
แต่ถ้าคุณไปบิ้วคนที่เขาเต็มที่อยู่แล้ว
ขยันลากเลือด เหนื่อยสายตัวขาดอยู่แล้ว
การไปโมเขาว่า ถ้ายังไม่สำเร็จ
คือยังทำไม่มากพอ ใจยังสู้ไม่พอ
เดี๋ยวก็บูมมม เป็นโกโก้ครั้นช์กันพอดี
.
คนจะรวย
มันต้องเฮงด้วย
.
ไม่เก่งแต่เฮง = รวยได้
เก่งแต่ไม่เฮง = รวยยาก
คนมากมายเลยนะ
ที่เหนื่อยปีนขึ้นไปสุดพลัง
สุดท้ายร่วงลงมาอยู่ที่เดิม
.
อย่าเที่ยวไปบิ้วใครให้เหนื่อยให้สุดตัวเลย คุณไม่รู้ว่าหน้าตักบารมีเขามีเท่าไร คุณอาจจะรวยขึ้นมาเพราะวิธีนั้น แต่มันก็ไม่ใช่สูตรสำเร็จที่จะทำได้ทุกคนนะ
.
คนระดับเจ้าสัวที่ผมเคยคุยด้วย
ไม่มีใครประมาทเรื่องเฮง
หมั่นทำทาน ฝึกสมาธิ สร้างบารมีเสมอ
และถ่อมตัว
เขาไม่ได้คิดว่าเพราะฉันเก่งไง เพราะฉันสู้ไง
ฉันถึงมาอยู่ตรงนี้
แต่ยกเครดิตให้โชคชะตา
ให้จังหวะเวลาด้วย
คนเก่ง คนพยายามมากกว่าฉัน ก็มี
ฉันแค่โชคดีกว่าพวกเขา
น้ำเสียงโทนแบบนี้
ผมฟังแล้วรู้สึกว่าเขาเข้าใจโลกดีจัง
.
ผมเองก็ผ่านโปรแกรมเพิ่มศักยภาพมามากมาย ช่วง 30s นี่ก็เป็นอายุน้อยร้อยคอร์สเหมือนกัน เรียนแม่มทุกเสาร์อาทิตย์ ลงมือทำมาก็หลายงาน หลายธุรกิจ แต่ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จมากมายอะไร
ผมในวัย 40s
ตกผลึกได้ ตามที่เขียนไปด้านบนแหละครับ
.
ความเฮงสร้างได้นะ
ฝึกสมาธิครับ
ง่ายสุดก็ฝึกดูลมหายใจนี่แหละ
ฝึกที่จะไม่คิดอะไรเลย
นอกจากรับรู้ว่า ลมเข้า ลมออก
สมาธิดีขึ้น โฟกัสสิ่งที่ต้องการได้ชัดขึ้น
ปัญญาจะเกิดเอง ว่าต้องทำอะไรก่อนหลัง
ต้องตัด Noise อะไรออกไปจากชีวิต
จะเห็นอารมณ์ตัวเองชัดขึ้น
กำลังโลภ กำลังโกรธ กำลังหลง
เมื่อกำลังของสติมา ปัญญาก็จะเกิด
จิต (ไม่ใช่สมอง) มันจะสืบสาวไปจนเจอเหตุของอารมณ์ จนเห็นแจ้ง เข้าใจเอง ว่าทำไมจึงเกิดอารมณ์เช่นนี้อยู่
การเห็นทั้งหมดนี้ เรียกว่า เห็นธรรม
คือเห็นความจริงตามธรรมชาติ
เห็นกระบวนการเกิดที่เราควบคุมไม่ได้
มันเกิดขึ้นและดับไปของมันเอง
ที่แต่ก่อนไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้ทัน
.
มนุษย์อ่ะ
แค่ไม่ตัดสินใจไปตามอารมณ์
ก็เฉียบคมขึ้นเป็นร้อยพันเท่าแล้วนะ
มันจะรู้เองว่าต้องทำยังไง
นี่แหละ ปัญญาญาณ
.
และพอเข้าใจทั้งหมดนี้
มันจะไม่มีหรอกความโลภมาก
ความตระหนี่ เห็นแก่ตัว
ตรงกันข้ามมันจะมีความละอายต่อบาป
ละอายต่อการเอาเปรียบเบียดเบียนผู้อื่น
ความเมตตา การแบ่งปัน
การให้อภัย ไม่ถือโทษโกรธใคร
จึงเป็น After shock ที่จะเกิดตามมาเอง
หลังจากเห็นธรรม
.
นี่คือวิธีสร้างความเฮงที่ผมค้นพบ
คือการสร้างบารมี
ที่เริ่มง่าย ๆ จากการฝึกสมาธิครับ
เมื่อเริ่มสั่งสมบารมีแล้ว
กฎแรงดึงดูดจะทำงานแรงขึ้น
Manifest เสกความมโน ให้เป็นความจริงได้บ่อยขึ้น
นี่แหละ Leverage
หรือ คานผ่อนแรง ขั้นสุดยอด
คุณจะเริ่มทำน้อยได้มาก
คุณจะเริ่มทำง่ายได้เยอะ
เหมือนที่โบราณว่า
คนบารมีสูง ไปไหนเทวดาก็อยากช่วยนั่นแหละ
บารมีเอง ก็เกิดจากเหตุปัจจัย
ตามหลักอิทัปปัจจยตาในคัมภีร์โบราณ
เพราะมีสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงเกิด
ดังนั้นเราสร้างบารมีได้
สร้างความเฮงได้ครับ
.
ผมชอบแนวทางนี้ มากกว่าการตะบี้ตะบันสู้ชีวิตไปแบบ ถ้าเหนื่อยแล้วยังไม่ได้ ก็ต้องเหนื่อยขึ้นอีก ถ้ายังลำบากอยู่อย่าเพิ่งรีบถามหาสมดุลชีวิต โอย แค่ฟังก็เหนื่อยเพิ่มแล้วอ่ะ
อาจจะเพราะผมเคยทำมาแล้วมันไม่เวิร์กก็ได้
ใครชอบก็ไม่ว่ากันนะ
เราเองก็สั่งสมเหตุปัจจัยมาไม่เหมือนกัน
แต่หากใครอ่านโพสนี้แล้วได้แง่คิด
เกิดตัวปิ๊งนำไป Apply กับชีวิตคุณได้
ผมก็ขอมุทิตาจิตด้วย
พยายาม ไปพร้อม ๆ กับ สร้างบารมี นะครับ
ขี้เกียจบ้างก็ได้ หย่อนใจบ้างก็ได้
เกมการเงิน มนุษย์เราออกแบบขึ้นเอง
อย่าใช้ทั้งชีวิตในโหมดเครื่องจักรหาเงินเลย
อย่าเฆี่ยนตีตัวเองนักเลย
หาสมดุลของคุณให้เจอ
เป็นลาภอันประเสริฐ