บางคนอาจจะกดเข้ามาแบบ งง-งง ว่า DJI Phantom 3 คืออะไรฟระ? รู้จักแต่ The Phantom of the Opera …
Phantom 3 คือ โดรน (drone) รุ่น Phantom ซึ่งออกมาเป็น generation ที่ 3 แล้ว โดยบริษัท DJI (Da-Jiang Innovations) ครับ
สำหรับคนที่ไม่เคยได้ยินคำว่าโดรนมาก่อน อาจจะยิ่ง งงหนัก ว่าโดรนคือหอยไร? โดรนไม่ใช่หอยครับ แต่เป็นชื่อเล่นของ มัลติโรเตอร์ (multi-rotor) ภาษาชาวบ้านก็คือ เฮลิคอปเตอร์หลายใบพัด (4 ใบพัดเรียก quadcopter, 6 ใบเรียก hexacopter, ไปเรื่อย ๆ …) ชื่อทางราชการยังมีอีกชื่อ คือ อากาศยานไร้คนขับ (UAV – Unmanned aerial vehicle) เริ่มเยอะ มันจะเรียกอะไรกันให้วุ่นวายเนอะ ช้าง-แหม่ม ละกันครับ เอาเป็นว่าเราเรียกโดรนแหละ ที่มาของชื่อนี้ก็เพราะเวลามัลติโรเตอร์พวกนี้มันบิน มันจะมีเสียงหึ่ง ๆ คล้ายกับผึ้ง ตามความหมายของคำว่า drone นั่นแหละครับ
แต่ก่อนเราจะไปถึงว่า ทำไมผมถึงเลือกโดรนรุ่นนี้ ผมขอเล่านิดนึงก่อนดีกว่าว่า ทำไมผมถึงได้มาสนใจโดรน?
Why Drone?
ตอนเด็ก ๆ ผมชอบพาหนะของพระเอกในการ์ตูนดังเรื่องหนึ่งมาก ๆ นั่นคือ “เมฆสีทอง” ของหงอคง (หรือผมควรจะเรียกว่าโงกุนดี? เป็นความลังเลในเรื่องที่ไม่ควรมาเสียเวลาคิด) แห่ง Dragonball เชื่อมั้ยครับว่า เด็กชายเติร์ดนั้น crazy ถึงขั้นแอบไปตะโกนกลางทุ่งดัง ๆ เพื่อเรียกเมฆสีทองมาแล้ว เผื่อฟลุ๊คมีจริง เรียกแล้วมันมาให้ขี่จริง ๆ จะบินขึ้นไปนอนเล่นบนรุ้งกินน้ำ … คงไม่ต้องอธิบายนะครับว่าเด็กคนนั้นอยากขี่เมฆแล้วท่องไปบนฟากฟ้ามากขนาดไหน
ตอนนั้นไม่มีใครรู้ว่า ราว ๆ สามสิบปีต่อมา ความฝันของเด็กคนนั้นจะถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง จริง ๆ โดรนติดกล้องเกิดขึ้นมาหลายปีแล้วครับ แต่ผมเพิ่งมาสนใจเอาจริง ๆ ก็ตอนที่มันเริ่มส่งภาพจากกล้องลงมาให้ดูสด ๆ ราวกับว่าเรากำลังนั่งขับโดรนบินอยู่บนฟ้าด้วยตัวเราเอง
ความฝันที่จะขับโดรนขึ้นไปจอดเล่นบนรุ้งกินน้ำ กำลังจะเป็นจริงละครับ! #ใช่เหรอวะ
…
เอาจริง ๆ ผมว่าบางครั้งเราก็ไม่ต้องหาเหตุผลอะไรมารองรับหรอกครับ ว่าทำไมเราถึงสนใจสิ่งนั้น สิ่งนี้ แต่ถ้าเรารู้สึกสนุก ตื่นเต้น อะดรีนาลีนหลั่งไหล ที่ได้ค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับมัน รู้สึกมีความสุขที่ได้ทำมัน ไม่ว่าผลลัพธ์มันจะ success หรือ fail ก็ตาม ผมว่าอันนั้นแหละครับ “Passion”
เลือกซื้อ Drone อย่างไร?
พอศึกษาโดรนมาได้สักพัก ผมก็ได้ทราบว่า นอกจากโดรนแบบสำเร็จที่ขายกันราคาตั้งแต่ 1,000 กว่าบาท ไปยัน หลักแสนนั้น เรายังมีทางเลือกคือ หาซื้อ part ต่าง ๆ mainboard, motor, ใบพัด, ภาครับ, ภาคส่ง ฯลฯ มาประกอบเอาเองก็ได้ ซึ่งสามารถทำให้ราคาถูกกว่าซื้อสำเร็จเกือบเท่าตัวเลยสองที (ทีเดียวน้อยไป)
แต่จากการเข้าไปขลุกตัวเองอยู่ในบอร์ด RC Thai รวมถึง group คนเล่นโดรนต่าง ๆ ใน facebook อยู่สักพัก ผมก็ได้ข้อสรุปให้ตัวเอง ที่จะไม่ประกอบเอง และซื้อโดรนแบบสำเร็จ ด้วยเหตุผลดังนี้
1. ความปลอดภัย
ผมมีความรู้เรื่อง RC (Radio Controlled) น้อยมาก ดังนั้นผมไม่รู้ว่า มอเตอร์ ใบพัด ภาครับ ภาคส่ง ส่วนไหนมันสัมพันธ์กับส่วนไหนอย่างไร? หากอะไรขัดข้องขึ้นมาแล้วส่งผลกระทบต่ออุปกรณ์อื่นอย่างไร? แล้วจะเกิดผลเสียต่อการบินอย่างไร?
ผมเลยไม่ค่อยอยากเสี่ยงเอาอุปกรณ์ที่ผมเองยังตรวจสอบคุณภาพไม่เป็น มามัดรวมกันด้วยความรู้งู ๆ ปลา ๆ แล้วเอาขึ้นฟ้า ความเสี่ยงในการหล่นลงมาสร้างความเสียหาย ให้แก่สิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตบนภาคพื้นโลกนั้น ยังสูงเกินไปสำหรับผมในตอนนี้ ผมจึงเลือกจ่ายแพงกว่า แล้วซื้ออุปกรณ์ที่ผ่านการ QC จากผู้เชี่ยวชาญมาในระดับนึงแล้ว สบายใจกว่าครับ
2. ความเสถียร
จุดประสงค์หลักของผมคือ การถ่ายภาพและวีดีโอ สิ่งที่ผมพิจารณารองลงมาจากความปลอดภัยคือ “ความนิ่ง” คนดูจะได้ไม่ปวดตับไปกับภาพที่สั่นไหวไปมา เขย่าเศียรให้เวียนเกล้าขณะกด play แต่สิ่งที่โดรนต้องเจอแน่ ๆ เมื่อขึ้นที่สูงก็คือ “ลมแรง” ดังนั้นการจะจูนเครื่องและ gimbal (stabilizer) ให้สามารถรักษาเสถียรภาพของตัวเองไว้ให้นิ่งที่สุดเมื่อเจอลมนั้น เป็นนวัตกรรมที่ผมไม่อยากจะมานั่งคำนวณเอาเองเลยแม้แต่น้อย
รายละเอียดในการเลือก part แล้วมาประกอบเองมันยิบย่อยมาก มอเตอร์จะใช้แบบไหน มีแรงเท่าไร ต้องใส่กับใบพัดขนาดเท่าไร อย่างถ้าจะใช้ใบพัดที่มีค่า pitch สูงขึ้นจากสเปคที่มอเตอร์กำหนดมา ก็จะไปเพิ่มภาระให้มอเตอร์ ก็ต้องกลับมาจูนบอร์ดเพิ่มเพื่อปรับค่าลงมาไม่ให้ตัวลำแกว่งหรือคว่ำ บลา ๆ คิดดูครับ กว่าจะได้โดรนสักลำที่ลอยต้านลมได้นิ่ง ๆ ถ้าผมจะประกอบเอง ปรับจูนเอง ไม่รู้ผมต้องศึกษาอีกเท่าไร และเวลาว่างที่เราจะมีให้กับ hobby อันนี้มันจะพอไหม
3. Community
ชุมชนคนที่เล่นยี่ห้อเดียวกับเรา รุ่นเดียวกับเรา ก็เป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ สำหรับมือใหม่อย่างผม การแชร์ความรู้ ประสบการณ์ ปัญหาและวิธีการแก้ไขในกลุ่มคนที่ใช้สินค้ายี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกันนั้น มันช่วยลดเวลาการศึกษา และค้นคว้าหาคำตอบให้คำถามต่าง ๆ ย่นระยะเวลาการเรียนรู้และลองผิดถูกด้วยตัวเองได้เยอะมากครับ
Why DJI Phantom 3?

ผมแอบมีธงอยู่ในใจมาตั้งแต่ปีที่แล้ว (2557) แล้วครับ ว่าถ้าจะเล่นโดรน ก็ซื้อ DJI Phantom 2 ด้วยเหตุผล
- ความง่ายในการใช้งาน เปิดเครื่องมาแทบจะเอาขึ้นฟ้าได้ทันที
- เป็นที่ยอมรับไปทั่วโลกว่า บินได้นิ่งมาก
- ระบบความปลอดภัย Fail Safe ของ Phantom จะใช้ GPS lock ตำแหน่ง home ที่ take off ไว้ เพื่อสามารถบินกลับมา พร้อมทั้งลงจอดได้เอง หากหลุดการเชื่อมต่อกับ controller ซึ่งทำให้นักบินอุ่นใจได้มากขึ้น หากเกิดการ disconnected กับตัวลำ ไม่ว่าจะเพราะบินเพลินจน out of range หรือ โดนสัญญาณรบกวนก็ตาม
แต่เนื่องจาก Phantom 2 Vision+ ซึ่งเป็นโมเดลท๊อปนั้น ราคายังค่อนข้างสูงในความรู้สึกผม ราว ๆ 45,000 บาท แล้วผมยังรู้สึกแปลก ๆ กับการส่งสัญญาณภาพ down link มาที่จอแบบ real time ของมัน ที่ต้องมีตัว range extender อะไรต่อมิอะไรแลดูวุ่นวาย เหมือนภาพจะส่งได้ไกลสุด 700 เมตร แต่ตัวลำบินได้ไกลประมาณ 1 กิโลเมตร ผมรู้สึกว่ามันยังไม่สมประกอบยังไงชอบกล ยังไม่ค่อยลงตัวในความรู้สึกนัก
ประกอบกับ search ไปเจอว่า DJI มีระบบรับส่งภาพ down link สุดล้ำที่คิดค้นขึ้นมาเองอีกอัน นามว่า Lightbridge สามารถส่งภาพระดับ HD 720p ได้ไกลถึง 2km สามารถติดตั้งเข้ากับ drone ได้ทุกรุ่น ผมงี้น้ำลายไหล ติดอยู่แค่อย่างเดียว เฉพาะชุด Lightbridge นี่ สนนราคาราว ๆ 40,000 ครัช ผมเลยสูดน้ำลายกลับแล้วกลืนลงไปให้ทะลุลำไส้ ระบบส่งภาพมาออกจอเหียกไร ซื้อโดรนได้อีกลำ
…

จนราว ๆ ปลายปี 2557 DJI ก็ยั่วกิเลสผมอีกครั้งด้วยการเปิดตัว Inspire 1 เป็นโดรนแบบ ready to fly รุ่นที่สูงกว่า Phantom 2 ที่มาพร้อมอาวุธหนักครบมือ ไม่ว่าจะเป็น
- กล้องที่ถ่ายวีดีโอได้ 4K (UltraHD ความละเอียดสูงกว่า full-HD 2 เท่า)
- กล้องหมุนได้ 360˚ เนื่องจากยกขาขึ้นหลบมุมกล้องได้
- ระบบ Vision Positioning เพื่อช่วยให้บินนิ่งใน indoor ที่ไม่สามารถรับสัญญาณ GPS ได้ โดยใช้เทคโนโลยี sonar ส่งสัญญาณมาสะท้อนพื้น และใช้กล้องอีกตัวจับ texture ที่พื้นไว้ตลอด จนมันสามารถบิน hover นิ่ง ๆ ได้ยังกะหินลอยค้างอยู่กลางอากาศ แม้ไม่มีสัญญาณ GPS เพื่อจับตำแหน่ง
- ปิดท้ายด้วยของแถมทีเด็ดทีขาด คือชุด Lightbridge ที่ bundle เข้าไปแล้วเรียบร้อยโรงเรียนดาเจียง!!!
ทั้งหมดนี่ทำให้ Inspire 1 กลายเป็นโดรนติดกล้อง 4K พร้อมบินที่ครบเครื่องแบบไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มอีกแล้ว น้ำลายที่สูดลงไปในท้องนั้นมันแทบจะดันทะลุกระเพาะขึ้นมาอีกรอบ ถ้าไม่ติดว่า มันมาในราคา “หนึ่งแสนบาท!”
…

ตอนนั้นคิดเลยนะครับ เจ็บแต่จบ ดีไหม? แต่ห้าหมื่นยังไม่ไหว นี่ริจะกระโดดไปเล่นหลักแสน อานุภาพของกิเลสนี่ช่างร้ายกาจจริง ๆ สรุปก็ข่มใจมาเรื่อยแหละครับ ระหว่างนั้นก็บินโดรนจิ๋ว Hubsan 4x 107c ที่สอยมาในราคา 2 พันกว่าบาท แก้เสี้ยนไปพลาง ๆ ก่อน แล้วก็คอยแอบส่องอยู่เรื่อย ๆ ว่ามีใครปล่อย Phantom 2 Vision+ มือสองถูก ๆ บ้างไหม ใจมันอยากจะสอยมาดับไฟกิเลสจะแย่อยู่แล้วครับ ฮ่า
…
เล่ามาตั้งยืดยาว เพื่อปูเรื่องมาถึงจุดพีคนี่แหละครับ ประมาณมีนา-เมษา 2558 นี่เอง ก็มีข่าวว่า DJI จะเปิดตัว Phantom 3 แบบสายฟ้าแลบ โดยที่เมื่อผมเห็นคุณสมบัติต่าง ๆ แล้ว บอกตรง ๆ ว่าขนลุกครับ
• กล้อง 4K เช่นเดียวกับ Inspire 1 ไม่มี distrotion ขอบฟ้าโค้งเหมือน PT2 หรือ GoPro
• มาพร้อมระบบ Vision Positioning บินนิ่งใน indoor
• และที่สุดของแจ้คือ ยัด Lightbridge พระเอกของผมมาให้อีกด้วย
My Goodness! มันเหมือน DJI ตั้งใจจัด Phantom 3 มาให้ผมชัด ๆ ขนาดยังไม่เห็นราคา ใจมันมันแทบจะกด pre-order ไปแล้วด้วยซ้ำ ซึ่งผมก็ทำใจไว้แล้วว่า ใส่ option มาซะเต็มยังกะ Inspire 1 ในร่าง Phantom แบบนี้นี่ ราคาอาจจะกระโดดขึ้นไปเป็น 50k-60k แหง ๆ (ก็ชุด Lightbridge อย่างเดียวก็ 4 หมื่นละ) แต่พอเปิดตัวราคาออกมาจริง ๆ ผมนี่แทบช๊อค …
• รุ่น Advance – กล้อง HD 1080p = 33,000 บาท
• รุ่น Professional – กล้อง UHD 4K 2160p = 41,000 บาท
และทันทีที่ DJI ประกาศราคา Phantom 3 ออกมา
ราคา Phantom 2 Vision+ ก็ clearance ลงไปเหลือ 28,000 ทันที!
…
ตอนนั้นผมคิดหนักมากครับ จะเอารุ่นเก่าที่เราเองก็โอเคใน spec อยู่แล้ว แต่ราคาโน้มกิ่งลงมาหาขนาดนี้ หรือจะจัดรุ่นใหม่ที่ใส่เต็มมาทุกเทคโนโลยีดี แต่สุดท้ายแล้วก็ชั่งน้ำหนักไม่ยากครับ ทุกอย่างที่มีเพิ่มมาใน Phantom 3 นั้นมันก็ทำให้เราได้ภาพที่ดีขึ้นมากจริง ๆ และทุกความลังเลจบลงทันทีเมื่อได้เห็นวีดีโอ test flight ที่ฝรั่งแกะกล่องแล้วบินทันที ความนิ่งของตัวลำ + พลังของ gimbal 3 axis มันทำให้ได้วีดีโอที่นิ่งเนียนมาก ๆ แถมด้วย down link ภาพวีดีโอขนาด 720p ลงมาที่จอมือถือของเราแบบ real time ก็เลยกลายเป็นที่มาของภาพนี้ในที่สุดครับ
ขอบคุณร้าน K-RC ที่มีเครื่องให้ผมไปสอยได้ทันทีที่ตัดสินใจ และขอบคุณพี่กิ แห่งทีมถ่ายภาพทางอากาศ Fokus Thailand ที่ได้ทำการสอนผมอย่างหมดเปลือก ว่าควรรู้อะไรบ้างในเบื้องต้น ต้องเชคอะไรบ้างก่อนขึ้นบิน การดูแลรักษาอุปกรณ์ ไปจนถึงไปลองบินที่หลังร้านจริง ๆ
…
ต่อไปมาดูกันครับว่า ชีวิตผมหลังได้เจ้า Phantom 3 มาแล้วนี่ เปลี่ยนไปยังไงบ้าง ฮรี่ ๆ
สอบถามหน่อยครับผมพึ่งหัดเล่น djl phantom 3 แล้วอัด vdo มา4k ปรากฏว่ามาเปิดดูมัน กระตุกเป็นช่วงๆอ่พครับ ต้องปรับอะไรที่กล้องก่อนไหม ขอบคุณครับ
กำลังสันนิษฐานว่า คอมไม่แรงพอจะ play ได้ครับ มันเลยกระตุก
ลอง upload ขึ้น youtube ดูก่อนครับ ถ้าไม่กระตุกแปลว่าใช่เลย คอมเราแรงไม่พอ แต่ตัวไฟล์ ไม่ได้มีปัญหาอะไร
แต่ถ้าเล่นผ่าน youtube ยังกระตุก อาจเป็นที่ไฟล์เลย การ์ดที่ใช้อาจจะมีความเร็วในการเขียนข้อมูลต่ำเกินไปครับ แต่อันนี้ไม่น่าใช่ เพราะ Laxar 16G ที่แถมมานั้น ความเร็วรองรับ 4K ได้สบายครับ
I have a phantom 3 standard, and am having problems connecting wifi, is there a shop or support group local and near a bts/mrt station that can help me?
any local meet-ups with fellow drone users in Bangkok? I am in Huay Kwang area
Scott,
I already sent email to you. Hope it helps 😉
หาซื้อได้ที่ไหนคับ? DJI phantom 3 advance แล้วราคาเท่าไหร่หรอคับ? ผมดูไนเว็บมันประมาณ37kอะคับ(ประมาณ$990) แต่เห็นเขียนว่า33kเลยไม่ชัว
ตัวแทนจำหน่าย DJI บ้านเราเยอะเลยครับ ผมซื้อจากร้าน K-rc.net ครับ
ผมเพิ่งได้ตัว Standard มา อยากทราบว่า เวลาบินหลุดคลื่นแล้วมันจะบินกลับมาเองนี่ เราต้องตั้งค่าตรงไหน หรือว่าเราตั้งตอนบินขึ้นแล้วครับ
ปกติเมื่อหลุดสัญญาณ จะเข้าโหมด Return Home (RTH) เองอยู่แล้วครับ แต่เราสามารถตั้งค่าใน setting (ในแอพ DJI Go) ได้ว่า ถ้าหลุดสัญญาณแล้วให้ RTH, hover เฉย ๆ, หรือ landing
ถ้าให้ RTH เราก็ตั้งได้อีกว่าจะให้ยกตัวขึ้นที่ความสูงกี่เมตรก่อนบินกลับ เพื่อให้พ้นตึก พ้นยอดไม้รอบ ๆ นั้น ลองเล่นเมนูในแอพดูครับ หาไม่ยาก
ขอบคุณมากครับ เดี๋ยวจะลองทำดูครับ แล้วโหมด follow me กับ interest point อยู่ตรงไหนอ่ะครับ ผมหาไม่เจอ