๑. Straw on Demand
ส่วนตัวผมกับแฟนและเพื่อน ๆ รอบตัวโดยเฉพาะเพื่อนกลุ่มนักดำน้ำ เราเริ่ม งดใช้หลอด กันมาสักระยะหนึ่งแล้ว ตั้งแต่เห็นคลิปดึงหลอดจากจมูกเต่าครั้งแรกเลยก็ว่าได้ พอเห็นร้านอาหารหลายร้าน เริ่มตอบรับกระแสนี้ โดยเข้าร่วมแคมเปญ Straw on demand ไม่เสิร์ฟหลอด นอกจากขอ ผมจึงให้น้องลิงร่วมด้วยช่วยตีกระแสอีกทาง
ต้องบอกว่า ไม่คาดคิดเลยว่ารูปนี้จะได้รับความสนใจจากแฟนเพจ ถึงขั้นแชร์กันไป ๑๗๖ ครั้ง มีคนเห็นโพสนี้กว่า ๘๐,๐๐๐ คน และคนส่วนใหญ่ที่แชร์ไปก็มีทัศนคติที่คล้ายกับผม คือความสะดวกสบายที่ได้จากหลอดนั้น เทียบกับมีขยะพลาสติกเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งชิ้น เราคิดว่าไม่คุ้ม ขอลดการสร้างขยะจะดีกว่า เรื่องขอบแก้วสกปรกก็ไม่ใช่ประเด็น เพราะเราเช็ดขอบแก้วได้ ยิ่งตามไปอ่านที่แต่ละคนแชร์ไป ยิ่งชื่นใจครับ ว่าคนตื่นตัวเรื่องขยะกันมากจริง ๆ ดีใจที่รูปที่เราวาดก็ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อมได้ครับ
๒. เป็นเช่นนั้น
๓. สว่างไม่พอ
ผมเองก็เคยเป็นคนประเภท ถ้าจะทำอะไรสักอย่างจะต้องหาข้อมูล เตรียมความพร้อม รู้ขั้นตอนทั้งหมดก่อน แล้วจึงจะเริ่มทำขั้นตอนแรก แต่หลังจากได้เรียนรู้ว่า มันทำแบบนั้นกับทุกเรื่องในชีวิตไม่ได้ เพราะบางครั้งมันก็ต้องตัดสินใจเร็ว กล้าเสี่ยง กล้าวัด บางทีโอกาสดี ๆ ก็ไม่รอใคร ผมจึงเริ่มเรียนรู้ที่จะยืดหยุ่นไปตามสถานการณ์ ยืนเป็นต้นเหตุให้กับการจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวของตัวเอง ไม่โทษใคร ไม่ต้องรอ Resource จากใคร ไม่มีใคร ถ้าจำเป็นก็ต้องกล้าร้องขอการสนับสนุนจากผู้อื่น ถ้าไม่มีใครช่วย ก็ต้องไขว่คว้าเอาเอง
ผมได้แรงบันดาลใจมากจากการได้เห็นหลายคน อยากเริ่มต้นทำอะไรสักอย่าง แต่ก็มัวแต่รอคำแนะนำจากคนอื่น รอความรู้จากคนอื่น หรือบางครั้งก็กล่าวโทษคนอื่นด้วยซ้ำ ว่าไม่ได้ทำบางอย่างให้เขา เขาก็เลยเริ่มต้นไม่ได้ แต่ตัวเองก็ไม่ได้ลุกขึ้นมาเร่งรัดใคร หรือไม่ได้ทำอะไร จึงเหมือนคนในรูปที่เอาแต่โวยวายอยู่กับที่ ในขณะที่ลิงค่อย ๆ เดินไปศึกษาเส้นทางไปทีละก้าวด้วยตัวเอง เท่าที่แสงสว่างจากไฟฉายจะส่องได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาใคร รูปนี้ถูกแชร์ไปกว่า ๑,๒๐๐ ครั้ง มีคนเห็นมากกว่า ๒๓๐,๐๐๐ ครั้ง คาดว่าคงมีคนเข้าใจแง่คิดดี ๆ จากการ์ตูนสามช่องนี้ไม่น้อยครับ
๔.สมบูรณ์แบบ
เป็นอีกโพสที่ดูธรรมดา ไม่หวือหวา แต่ถูกแชร์ออกไปกว่า ๒๕๐ ครั้ง และที่ผมดีใจที่สุดคือ คนส่วนใหญ่ได้กำลังใจจากโพสนี้ ว่าคนเราทุกคนต่างก็สมบูรณ์แบบอยู่แล้ว ในแบบของเรา และเรายังสามารถส่งเสริมให้ผู้อื่น ให้ใช้ความสมบูรณ์แบบของเขาเองได้ด้วย
และผมได้รับข้อความจากคุณพ่อท่านหนึ่ง ว่า ขอบคุณจริงๆครับ,เป็นข้อความที่ทำให้ผมต้องส่งต่อให้ลูกชายคนโตได้อ่าน เพื่อเป็นกำลังใจให้เขา และอยากให้เขาเลิกโกรธพ่อเถอะ(ไม่กี่วันก่อน กล่าวตำหนิและตักเตือนเขานิดหน่อย ให้เขาหยุดเสพอะไรบางอย่าง,เพื่อชีวิตเขาจะได้อยู่รอดปลอดภัย,เขาคงโกรธ) ขอบคุณอีกครั้งจากใจจริง
นี่แหละครับ กำลังใจที่ทำให้ผมมีแรงทำเพจต่อไป
๕. ความคิดคือพลังงาน
๖. เราเป็นภาชนะเก็บเงินขนาดไหน?
เป็นอีกโพสที่มีคนเห็นมากกว่าคนที่ติดตามเพจ เนื่องจากถูกแชร์ออกไปกว่า ๗๖๒ ครั้ง
“Fortune favors the prepared mind. ” – Louis Pasteur
เป็น Quote ที่ผมชอบตลอดกาล เพราะผมเชื่อว่า เราจะมีเงินมากน้อยแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับความรู้ที่เรามี และนั่นก็จะบ่งบอกถึงขนาดภาชนะเก็บเงินที่เราเป็น จริงอยู่ คนเรามันต้องทั้งเก่งและเฮง แต่คนจำนวนมากที่ได้ความเฮงเข้ามาช่วย มีต้นทุนดี มีโชคลาภวิ่งชน แต่ความรู้ ความเก่งของตัวเองยังไม่พร้อมจะเป็นเจ้าของความมั่งคั่งระดับนั้น เดี๋ยวมันก็จะมีเรื่องให้สูญทรัพย์ไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายก็กลับมาอยู่ในจุดที่คู่ควรอยู่ดีครับ ในทางตรงกันข้าม การพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เหมือนเป็นการเตรียมดินให้พร้อม เมื่อสายลมแห่งความเป็นไปได้ พัดพาเมล็ดพันธุ์แห่งโอกาสตกลงมาฝังตัวเองในดินที่พร้อมอยู่แล้วแบบเรา มันก็จะสามารถเติบโตได้ทันที และนี่ก็คือความหมายของประโยคที่ว่า
“โชคดี ชอบพุ่งเข้าชน คนที่เตรียมตัวเอง ให้คู่ควรกับความโชคดีไว้เสมอ”
ใครชอบอะไรแนว ๆ นี้ ผมแนะนำหนังสือ “Goodluck” นิยายสั้น ๆ เล่มบาง ๆ อ่านคืนเดียวก็จบ แต่ได้แรงบันดาลใจมหาศาล ในการเตรียมตัวเราเองให้เป็นดินคุณภาพเยี่ยม
พร้อมให้เมล็ดพันธุ์แห่งโอกาสทุกชนิด หยั่งรากและเติบโตครับ
๗. relationSHIP
ความสัมพันธ์ ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่เขียนถึงทีไร มักจะได้ความสนใจ ได้ Engagement ที่ดีแทบจะทุกครั้ง โพสนี้ผมพูดถึง การปล่อยให้เกิดอคติ เกิดความคิดลบขึ้นในใจ โดยไม่เปิดโอกาสให้ทั้งตัวเราเองและอีกฝ่าย ได้ปรับความเข้าใจกัน มันเป็นเหมือนการแอบเจาะรูเล็ก ๆ เอาไว้ใต้ท้องเรือแห่งความสัมพันธ์ แล้วมันก็รอวันที่จะอัปปาง
ประเด็นนี้ผมทำคลิปวีดีโอเอาไว้ด้วย ใครชอบประเด็นด้านความสัมพันธ์ กดไปดูได้ที่นี่ครับ สนทนาบำบัด EP2 relationSHIP
๘. ยิ่งต่อต้าน ยิ่งคงอยู่
Episode นี้ ผมพยายามอธิบาย ความลึกซึ้งทางภาษา ที่สามารถพลิกบริบท หรือ Context ของจิตของมนุษย์ได้ แค่เปลี่ยนรูปแบบของภาษาที่ใช้สื่อสารเท่านั้น
“ฉันเป็นอิสระจากความทุกข์ไม่ได้” แค่พูดก็รู้สึกหนัก ยาก ไร้ซึ่งหนทางจะไปต่อแล้ว ทุกครั้งที่เราใช้ภาษาลักษณะนี้พูดกับใครก็ตาม มันคือการสื่อสารกับตัวเองด้วยทุกครั้ง และมันทำให้เรายิ่งท้อ ยิ่งหมดพลัง ทุก ๆ ครั้งที่พูดหรือคิดในลักษณะนี้
แต่แค่ลองบิดรูปแบบประโยคนิดเดียว “ลองปลดปล่อยความทุกข์ให้เป็นอิสระดูสิ” แค่พูดก็รู้สึกเบากว่า ง่ายกว่า ไม่มีอะไรต้องฝืน ต้องยาก ก็แค่ปล่อยที่กำไว้ ก็แค่คลายที่กอดไว้ ซึ่งสุดท้ายความหมายของมันก็คือสิ่งเดียวกันกับประโยคแรกนั่นแหละ แค่ภาพที่เกิดขึ้นขณะที่สื่อสารในรูปแบบนี้ มันเบา สบาย ง่ายดาย กว่าแบบแรกเยอะเลย จริงไหมครับ?
๙. โลกนี้มีแต่พวกไม่รู้เรื่อง
เนื้อหาที่มีความเป็นธรรมะแบบนี้ ถูกแชร์ออกไปเกือบ ๕๐๐ ครั้งนี่ ก็แอบประหลาดใจเหมือนกันนะ ประเด็นนี้หากอ่านแค่ผ่าน ๆ เราอาจจะสับสนครับ ว่า แล้วคนที่ฝ่าไฟแดงล่ะ คนที่ฆ่าคนตายล่ะ ไม่ผิดหรือไม่ ไม่ลงโทษหรือไง จะปล่อยมันไปเฉย ๆ หรือไง บ้านเมืองก็เละเทะหมดสิ
ใช่ครับ ผมไม่เถียง ทำผิดกฎหมาย ก็ต้องว่ากันไปตามบทลงโทษ เพราะนั่นคือกติกาที่เราตกลงจะใช้ร่วมกัน ไม่ควรจะหยวน ไม่ควรจะปล่อยผ่านครับ
แต่เราไม่จำเป็นต้องโกรธ ต้องเกลียด คนที่กระทำผิด ไม่จำเป็นต้องตราหน้าเขาว่าเป็นคนเลว ไม่จำเป็นต้องลงโทษเขาด้วยความสะใจ ทัศนคติแบบนั้น อารมณ์แบบนั้นแหละครับ ที่มักมาจากความยึดมั่นในทิฐิ ในอัตตาของเรา ว่าเรานี้แสนดีเหลือเกิน เป็นผู้ถูกเหลือเกิน ยกตนเองให้สูง โดยการมองเห็นผู้อื่นต่ำกว่า นี่แหละ อุปทานยึดมั่นถือมั่นในความคิดเห็น อย่างที่ท่านพุทธทาสบอก
เอาจริง ๆ แล้ว “ถูก-ผิด” ก็ไม่มีจริงครับ มนุษย์เราเป็นคนบัญญัติมันขึ้นมาเอง เราทะเลาะกัน เราเกลียดกัน เราฆ่ากัน ทำสงครามกัน ก็เพราะยึดมั่นในถูก-ผิด ที่นิยามไม่เหมือนกันนี่แหละ ขนาดทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ ที่เราเอามาเป็นข้อเท็จจริงอยู่ทุกวันนี้ ยังเปลี่ยนแปลงได้เลย เมื่อค้นพบหลักฐานใหม่มาหักล้างทฤษฎีเดิม กฎหมายก็ยังมีการอัพเดท ปรับปรุงไปตามบริบทของโลกและรูปแบบการอยู่ร่วมกันที่เปลี่ยนไปเช่นกัน
ดังนั้น อย่าไปยึดติดมากเกินไป กับความเป็นผู้ถูกของตัวเองเลยครับ หลายคนต่อสู้กับคนรอบตัว คนรัก มากมายเหลือเกิน เพื่อให้ได้มาซึ่งความเป็นผู้ถูก แต่สูญเสียความสัมพันธ์ สูญเสียความรักไปมากมาย รวมไปจนถึงบางคนที่ถึงขั้นเครียดและยอมรับตัวเองไม่ได้เลย หากเราจะต้องกลายเป็นผู้ผิดบ้าง มันไม่มีใครจะถูกได้ตลอดเวลาหรอกครับ Nobody’s perfect เราก็เป็นคนธรรมดา ที่ต้องมีวันที่พลาดกันบ้างแหละครับ
๑๐. Unconditional Love
๑๑. อ่านแต่ไม่ตอบ
โพสนี้ ผมเองเขียนจากประสบการณ์ตรง กับการส่งข้อความไปถามเพื่อน เกี่ยวกับงานบางอย่างที่เคยทำร่วมกัน แล้วไม่ได้รับการตอบกลับ ก็ส่งไปถามอีกว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมอ่านแล้วไม่ตอบ จนสุดท้ายออกแนวอ้อนวอนว่า ผมต้องทำยังไงให้คุณตอบอะไรกลับมาหน่อย บอกหน่อยสิ ก็ไม่ได้รับการตอบกลับ คือถ้าเป็นแต่ก่อน มันก็จะโมโห เพราะเรารู้สึกว่าเราเป็นผู้ถูกกระทำ คือมึงจะโกรธเคืองอะไร กูไม่รู้ แต่กูก็พร้อมคุยนะ คุยกันเถอะน่า เดินเข้าหาขนาดนี้แล้วยังเมิน ได้! ชาตินี้อย่าหวังจะได้คุยกับกูอีกเลย นี่คือหน้าตาของคนที่ถูกอีโก้ อัตตา ขับเคลื่อนชีวิต
แต่พอผมพิจารณาว่า ถ้าไม่ยอมตกเป็นทาสอัตตา แล้วเราอยากจะโต้ตอบกลับไปอย่างไรต่อ ผมก็พบว่า ยังไงก็อยากคุยแหละ อยากเข้าใจเขา ว่าเขามีเหตุผลอะไรถึงไม่ตอบเรา ไม่อยากคิดไปเอง คือจะตอบว่า เกลียดเราก็ได้นะ แค่อยากให้มันชัดเจนจากเขา ไม่ใช่เราสรุปความไปเอง ก็เลยได้ชัดเจนว่า การเลิกคบเขา จะไม่คุยกับเขาอีกเลย ไม่ใช่คำตอบ ถามตัวเองต่อว่า แล้วทำยังไงจะหายหงุดหงิด จึงได้พบว่า เราหงุดหงิดก็เพราะเราคาดหวัง ว่าถามไปแล้วเค้าจะต้องตอบ เหมือนที่เรารดน้ำ ใส่ปุ๋ยต้นไม้ แล้วคาดหวังให้ออกดอก
ทีนี้พุฒิปัญญาเกิดเลย คือพอเป็นต้นไม้ มันเห็นง่าย ว่าถ้าไม่ออกดอก เราก็ไม่โกรธต้นไม้ หนำซ้ำเราจะหันกลับมาสำรวจตัวเองด้วยซ้ำว่า ใช้ปุ๋ยไม่ดีเหรอ แดดแรงไปเปล่า รดน้ำมากไปไหม เราจะพยายามมองหาเหตุผลอื่นที่เราพลาดไป แทนที่จะก่นด่า เกรี้ยวกราดใส่ต้นไม้
ผมก็เลยปล่อยวางได้ สงบลงทันที ไม่ตอบก็คือไม่ตอบ และการไม่ตอบ ก็คือการตอบแบบหนึ่ง และหยุดความคิดไว้แค่นั้นเลย ไม่ต้องปรุงแต่งให้ความหมายมันเพิ่มเติมว่า ทำไมไม่ตอบ ไม่จำเป็นต้องรู้ เราก็รู้แค่รดน้ำไปแล้ว ต้นไม้ไม่ออกดอก แค่นั้นจบ คิดได้ดังนี้ก็สงบดี ไม่โกรธ ไม่เคือง ไม่หงุดหงิด ให้อิสระเขาเต็มที่ ที่จะเพิกเฉยต่อข้อความผม เขามีสิทธิ์ทำแบบนั้น ๑๐๐% และผมคงเป็นต้นเหตุที่ทำบางอย่างไว้เอง เขาถึงเลือกที่จะเพิกเฉยต่อข้อความผมในวันนี้ เราคู่ควรแล้ว
นั่นแหละครับ พอจิตสงบ อารมณ์สงบ ปัญญาก็เกิด ความคิดสร้างสรรค์ทำงาน จึงเกิดเป็นลิงรู้เรื่อง Episode นี้ขึ้นมาครับ
๑๒. ห้อยพระอะไร?
๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๑ Russal Repres นักปั่นชาวฟิลิปปินส์ ถูกรถตู้ฝ่าไฟแดงมาชนจนเสียชีวิต ระหว่างกิจกรรม Audax ๑,๐๐๐ สุวรรณภูมิ-ตราด ในขณะที่นักปั่นเลี้ยวขวาตามสัญญาณ ได้ถูกรถตู้ฝ่าสัญญาณไฟจราจร พุ่งชน และเสียชีวิตต่อมาในระหว่างที่รถกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลบ้านโพธิ์ รถตู้คู่กรณีได้ขับหลบหนีไป
ผมอ่านข่าวนี้ด้วยความหดหู่ขีดสุด นี่ไม่ใช่เคสแรก ที่ชีวิตคน ๆ นึงต้องมาจบลงเพราะการจงใจฝ่าฝืนกฎหมายอย่างมักง่าย ซึ่งเป็นสาเหตุการตายที่บ่งบอกถึงคุณภาพชีวิตที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินของสังคมนั้น ๆ มาก ซึ่งไม่ได้เป็นเฉพาะต่างจังหวัดเท่านั้น ในเมืองหลวงวินัยบนท้องถนนก็แย่ไม่ต่างกัน มอไซค์ฝ่าไฟแดงกันอย่างบ้าคลั่ง (ต้องใช้คำนี้แหละ)
เลยเก็บความหดหู่ มาระบายเป็นการ์ตูน Episode นี้ครับ
๑๓. สบายดี
๑๔. ไม่ต้องเห่าไปซะทุกเรื่องก็ได้
โพสนี้ก็ถือว่า เกินความคาดหมายเหมือนกัน เพราะแชร์ต่อกันไปถึง ๕๗๐ ครั้ง ซึ่งในจำนวนนี้ก็มีทั้ง แชร์ไปด่าเพื่อน และแชร์ไว้เตือนตัวเอง ซึ่งก็ถือว่าตรงจุดประสงค์ เพราะโพสนี้ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากเพื่อน แต่บางทีตรูก็เป็นเช่นกัน ๕ ๕ ๕
๑๕. ตูนตีนโต
ภาพนี้เป็นภาพที่ถูกแชร์ทั้งหมด ๒,๘๗๐ ครั้ง มีคนเห็นกว่า ๔๓๐,๐๐๐ ครั้ง ซึ่งเป็นสถิติที่สูงที่สุดของปี ๒๕๖๑ เลยทีเดียว ทั้งที่ไม่มีคำอธิบายบรรยายภาพใด ๆ ปล่อยให้ภาพมันเล่าเรื่องของมันเอง
แรงบันดาลใจของภาพนี้ คิดว่าก็คงเหมือนกับความรู้สึกของหลาย ๆ คน แม้เราจะเข้าใจดีว่า งบช่วยคนจน กับงบสาธารณสุข จะเป็นคนละก้อนกัน แต่มันก็อดอึดอัดไม่ได้ ที่เห็นการบริหารงบสาธารณสุขล้มเหลวจนพี่ตูนต้องมาวิ่งน่องโป่ง ระดมเงินจากภาคเอกชนไปช่วยโรงบาล แต่ภายหลังรัฐบาลดันมีตังค์มาแจกผู้ถือบัตรคนจนดื้อ ๆ เป็นวงเงินที่สูงกว่าที่พี่ตูนระดมทุนได้เป็นเท่าตัว ผมเชื่อว่า มันเป็นความอึดอัดในใจคนจำนวนมากที่มีต่อประสิทธิภาพในการบริหารเงินภาษีของรัฐ ที่มีต่อนโยบายโปรยเงินแบบดื้อ ๆ ผ่านเงื่อนไขบัตรคนจนยอดแย่ จนผู้คนต้องมาระบายออกด้วยการกดไลค์กดแชร์ ให้ภาพนี้พูดแทนใจพวกเขานับพันคน จนกลายเป็นโพสที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดแห่งปี
และนี่ก็คือ Top ๑๕ ลิงรู้เรื่อง ของปี ๒๕๖๑ ที่ผ่านมานะครับ หวังว่า ทุกท่านจะได้ทั้งความบันเทิง และแง่คิด มุมมองดีดี ทำให้ชีวีมีสุขมากขึ้น ซึ่งเป็นความตั้งใจหลัก ที่ผมวาดการ์ตูนลิงรู้เรื่อง ขึ้นมานะครับ
หากชอบผลงานของผม ฝากติดตาม กด See first เพจไว้จะได้ไม่พลาดโพสใหม่ ๆ ฝากบอกต่อให้มีคนรู้จักลิงรู้เรื่องมากขึ้น ฝากอุดหนุนสติ๊กเกอร์ไลน์และใช้มันบ่อย ๆ ก็จะเป็นกำลังใจให้ผมมีแรงวาดต่อไปเยอะเลยครับ ^^
ชอบทุกภาพเลยลิง … โดยเฉพาะภาพสุดท้าย